สารประกอบอะโรมาติก (Aromatic)
1.บทนำ
สารประกอบอะโรมาติก เป็นไฮโดรคาร์บอนที่มีลักษณะเป็นโซ่ปิด ไม่มีสูตรทั่วไป โดยในตอนแรกนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองกับเบนซีน และพบว่าเบนซีน ไม่ทำปฏิกิริยาเหมือนกันไฮโดรคาร์บอนชนิดอื่นๆ
ต่อมาก็ได้ค้นพบว่า เบนซีนมีลักษณะโครงสร้างที่กลับไปกลับมาอย่างรวดเร็ว ในภายหลังจึงทราบว่า เกิดปรากฏการณ์เรโซแนนซ์ขึ้นในวงของเบนซีน จนกระทั่งได้ตั้งเป็นกฎเพื่อใช้บ่งบอกสารอะโรมาติก โดยสารที่เป็นอะโรมาติกนั้น จะต้องมีจำนวนอิเล็กตรอนไพ เป็น 4n+2, n เป็นจำนวนเต็ม
2.การเรียกชื่อ
จะนิยมใช้ชื่อสามัญในการเรียก โดยจะเรียกเป็นอนุพันธ์ของเบนซีน
- สารประกอบอะโรมาติกที่มีหมู่อะตอมมาเกาะหนึ่งหมู่
- สารประกอบอะโรมาติกที่มีหมู่อะตอมเกาะ 2 หมู่
หากว่าจัดแบบ 1,2 จะเรียก ortho (o-) แบบ1,3 เรียก mete (m-) แบบ 1,4 เรียก para (p-)
- สารประกอบอะโรมาติกที่มีหมู่อะตอมมาเกาะมากกว่า 2 หมู่
2,4,6 - tribromotoluene |
5-Chloro-2-Methoxy Benzoic Acid |
- สารประกอบอะโรมาติกอื่นๆ
- ถ้าเบนซีน กลายเป็นหมู่แทนที่ ?
phenyl group |
benzyl group |
3.ปฏิกิริยาของสารประกอบอะโรมาติก
- ปฏิกิริยาแทนที่ด้วยอิเล็กโทรไฟล์
แม้ว่าสารประกอบอะโรมาติกจะมีความเสถียรสูง ซึ่งเนื่องมาจากอิเล็กตรอนไพ
ในวงเบนซีน แต่หากนำไปทำปฏิกิริยากับอิเล็กโทรไฟล์ โดยมีกรดเป็นตัวเร่ง
ก็จะสามารถเกิดปฏิกิริยาได้
1. Halogenation of Benzene : การแทนที่ด้วยธาตุฮาโลเจน
2. Nitration of Benzene : การแทนที่ด้วยหมู่ไนโตร
1. Halogenation of Benzene : การแทนที่ด้วยธาตุฮาโลเจน
2. Nitration of Benzene : การแทนที่ด้วยหมู่ไนโตร
3. Sulfonation of Benzene : เป็นการแทนที่ด้วยหมู่ซัลโฟนิก
4. Friedel-Crafts Alkylation : การแทนที่ด้วยหมู่อัลคิล
- ปฏิกิริยาของเบนซีนเมื่อมีหมู่อะตอมมาเกาะแล้ว 1 หมู่
หมู่อะตอมที่มาเกาะตัวแรกจะเป็นตัวกำหนดว่า สารที่มาแทนที่สารต่อไปจะเกาะที่ตำแหน่งใด
- ปฏิกิริยาของเบนซีนเมื่อมีหมู่อะตอมมาเกาะแล้ว 1 หมู่
หมู่อะตอมที่มาเกาะตัวแรกจะเป็นตัวกำหนดว่า สารที่มาแทนที่สารต่อไปจะเกาะที่ตำแหน่งใด
Ortho and Para Directing Group
เป็นหมู่ที่สามารถเกิดเรโซแนนซ์ร่วมกับวงเบนซีนได้ และตำแหน่ง ortho และ para
เป็นหมู่ที่จะดึงอิเล็กตรอนไพจากเบนซีนเพื่อเกิดเรโซแนนซ์ในหมู่ของตน ทำให้ตำแหน่ง
ortho และ para มีสภาพเป็นบวกมากขึ้น ส่งผลให้ตำแหน่งที่ว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยา
1. ปฏิกิริยา oxidation ของอัลคิลเบนซีน
จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นกรดเบนโซอิก และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยหมู่อัลคิล
จะต้องไม่ใช่คาร์บอนตติยภูมิ ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดปฏิกิริยาขึ้น
2. ปฏิกิริยา oxidation ของอนุพันธ์อัลคิลเบนซีนที่มีหมู่อะตอมมาเกาะอยู่
คล้ายกับในข้อ 1 เพียงแต่ต้องใช้ตัวเร่งที่แรงกว่า